รถยนต์ถูกน้ำท่วม ควรทำอย่างไร? แนะนำขั้นตอนง่ายๆ

รถยนต์น้ำท่วม

เลือกหัวข้อที่อยากอ่าน

ภัยพิบัติน้ำท่วม

น้ำท่วม เป็นภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินของเราอย่างรุนแรง หนึ่งในทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ รถยนต์ เมื่อรถยนต์จมน้ำ จะส่งผลเสียต่อระบบต่างๆ ภายในรถอย่างมาก หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่ปัญหาที่ตามมาได้มากมาย
น้ำท่วม

ข้อควรปฏิบัติ กรณีรถน้ำท่วม

  1. ให้ถอดขั้วแบตเตอร์รี่ทันทีที่รถเข้าอู่
  2. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และน้ำมันพาวเวอร์ทันที
  3. ทำความสะอาดภายในห้องเครื่องทั้งหมด
  4. ถอดกรองอากาศออกมาตรวจสอบว่ามีน้ำอยู่หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าอาจมีน้ำเข้าไปยังชุดท่อรวมไอดีได้ ไม่ควรที่จะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์เพราะอาจมีน้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้และจะทำให้ก้านสูบคดได้
  5. ให้ถอดหัวเทียน (เครื่องเบนซิน) หรือหัวฉีด (เครื่องดีเซล) ออกมาทุกสูบเพื่อทำการสตาร์ทไล่น้ำออกจากห้องเผาไหม้
  6. ถอดล้างทำความสะอาดกล่องฟิวส์ กล่องควบคุมเครื่อง (ECU) กล่อง Air Bag กล่องเกียร์ (ถ้ามี) และให้ถอดปลั๊กไฟออกมาฉีดน้ำยาไล่ความชื้น ตามขั้วปลั๊กทั้งหมด
  7. ทำความสะอาดภายในรถ ทำความสะอาดเบาะแล้วตากในร่ม (ห้ามตากแดด)
  8. ถอดทำความสะอาดตู้แอร์ คอยล์เย็นแอร์ และถอดทำความสะอาดแผงนวมหน้าปัทม์มาตรวัดต่างๆในเรือนไมล์
  9. ทำความสะอาดและตรวจสอบไดชาร์จ และมอเตอร์สตาร์ท
  10. ถอดทำความสะอาดและตรวจสอบชุดลูกรอกสายพานไทร์มิ่งต่างๆ
  11. ถอดทำความสะอาดฝ้าหลังคา
  12. ถอดทำความสะอาดและตรวจสอบระบบเบรคทั้ง 4 ล้อ

เกียร์ออโต้

เกียร์ออโต้
ตรวจสอบน้ำมันเกียร์ว่ามีน้ำปะปนในน้ำมันเกียร์หรือไม่ น้ำมันเกียร์ที่มีน้ำปนอยู่จะมีลักษณะคล้ายโยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่ ถ้าพบให้อู่ดำเนินการถอดเกียร์ออกจากเครื่องและให้นำทอร์คคอนเวเตอร์เอามาคว่ำแล้วล้างโดยการใส่น้ำมันเบนซินเข้าไปแล้วหมุมทอร์คตามเข็มนาฬิกา ทำประมาณ 2-3 ครั้ง ส่วนตัวเกียร์ให้ทำการผ่าแล้วล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองท้าย

เกียร์ธรรมดา หรือเกียร์กระปุก

เกียร์กระปุก
ถอดหัวหมูออกแล้วทำความสะอาดชุดคลัทช์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้าย

การสังเกตว่ามีน้ำเข้าเครื่องยนต์

สังเกตจากสีของน้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันเกียร์ ถ้ามีน้ำสีจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นเหมือนสีนม

ขอบคุณข้อมูลจาก วิริยะประกันภัย