รถสันดาป VS รถไฟฟ้า ประกันภัยต่างกันยังไง คุ้มครองอะไรบ้าง?
การทำประกันรถยนต์ โดยเฉพาะ ประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อม ค่ารักษาพยาบาล หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือบุคคลภายนอก โดยจุดเด่นของประกันชั้น 1 คือให้ความคุ้มครองครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคู่กรณี แม้ในกรณีที่ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม ช่วยให้มั่นใจในการใช้รถ และป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในระยะยาว
การเปรียบเทียบ เบี้ยประกันรถยนต์ อย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายมากที่สุด
1. ค่าเบี้ยประกันรถยนต์
เบี้ยประกันรถยนต์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่เจ้าของรถพิจารณาก่อนตัดสินใจทำประกัน
- รถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีค่าเบี้ยประกัน ประมาณ 26,000 – 28,000 บาทต่อปี
- รถยนต์สันดาปในช่วงราคาเดียวกันมีเบี้ยประกันประมาณ 18,000 – 19,000 บาทต่อปี
สาเหตุที่เบี้ยประกันรถไฟฟ้าสูงกว่า มาจากต้นทุนการซ่อมแซมที่มากกว่า และความซับซ้อนของชิ้นส่วนไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ ระบบมอเตอร์ หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะทาง
2. ทุนประกัน
ทุนประกัน คือ มูลค่าสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้คุณเมื่อเกิดความเสียหายกับรถยนต์หรือสูญหายตามเงื่อนไขกรมธรรม์
- รถยนต์ไฟฟ้าราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทมีทุนประกันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท
- รถยนต์สันดาปในช่วงราคาใกล้เคียง มีทุนประกันสูงสุดประมาณ 600,000 บาท
ทุนประกันรถไฟฟ้าน้อยกว่ารถสันดาปแม้จะราคาใกล้เคียงกัน เพราะมูลค่าตลาดรถไฟฟ้าหลังใช้งานลดลงเร็วกว่า โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่มีอายุจำกัด และต้นทุนซ่อมแพง บริษัทประกันจึงกำหนดทุนประกันน้อยกว่าเพื่อควบคุมความเสี่ยงและสอดคล้องกับมูลค่าจริงของรถ

3. ค่าความเสียหายต่อตัวรถ
ค่าความเสียหายต่อตัวรถ คือ วงเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะชดเชยเพื่อซ่อมแซมหรือชดเชยความเสียหายที่เกิดกับตัวรถตามมูลค่าทุนประกัน
- รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท
- รถยนต์สันดาปอยู่ที่ประมาณ 700,000 บาท
เช่น เดียวกับทุนประกัน กล่าวคือ หากเกิดเหตุรุนแรง รถสันดาปจะได้รับความคุ้มครองสูงกว่า ในขณะที่รถไฟฟ้าอาจต้องจ่ายส่วนต่างหากค่าซ่อมเกินทุนประกันด้วยตัวเอง

4. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และความคุ้มครองอื่นๆ
แม้รถไฟฟ้าและรถสันดาปนั้นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องค่าเบี้ยประกัน ทุนประกัน และค่าความเสียหายต่อตัวรถ แต่มีความคุ้มครองพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานเดียวกันของประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่จะดูแลทั้งผู้ขับขี่ และคู่กรณีรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรับผิดต่อชีวิตบุคคลภายนอก สูงสุดประมาณ 500,000 – 1,000,000 บาท ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกต่อครั้ง สูงสุดประมาณ 10,000,000 บาท ความเสียหายต่อทรัพย์สินคู่กรณีประมาณ 3,500,000 – 4,500,000 บาท ค่าอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล สูงสุดประมาณ 100,000 – 200,000 บาทค่าประกันตัวผู้ขับขี่ประมาณ 250,000 – 750,000 บาท
**ค่าเบี้ยประกันภัย และความคุ้มครองอาจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไข และข้อกำหนดของแต่ละบริษัทประกันภัย**
สรุป
แม้รถไฟฟ้าจะมีราคาใกล้เคียงกับรถสันดาป แต่มีเบี้ยประกันที่สูงกว่า และทุนประกันต่ำกว่ารถสันดาป แต่อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้า และรถสันดาป ยังคงได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากประกันชั้น 1 ทั้งอุบัติเหตุ การรักษาพยาบาล และความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
หากคุณกำลังกำลังเลือกซื้อรถคันใหม่ อย่าลืมเปรียบเทียบ เบี้ยประกันรถยนต์ ทุนประกัน และรายการคุ้มครองเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าทั้งด้านความปลอดภัย และค่าใช้จ่ายในระยะยาว