ปัจจุบันนี้ก็มีรถหลายรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ราคาไม่สูงจนเกินไป จึงทำให้การออกรถยนต์ใหม่สำหรับคนเงินเดือน 15,000 นั้นเป็นไปได้ เพียงคุณวางแผนการเงินให้ดีก็สามารถผ่อนรถได้สบายๆ
บทความนี้มาหาคำตอบกันว่า ถ้ามีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนรถฮอนด้ารุ่นไหนได้บ้าง พร้อมวิธีการวางแผนก่อนตัดสินใจผ่อนรถ เพื่อให้การใช้จ่ายของคุณไม่มีสะดุด
เงินเดือน 15,000 ผ่อนรถราคาเท่าไหร่ดี?
สำหรับคนที่มีเงินเดือน 15,000 บาทหรือบวกเพิ่มไปนิดหน่อย หากคุณต้องการผ่อนรถยนต์ ค่างวดรถยนต์ในแต่ละเดือน ไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งของเงินเดือน หรือตั้งแต่ 5,000 – 7,500 บาท ต่อเดือน เพราะหากเกินกว่านี้อาจจะกระทบกับค่าใช้รายเดือนของคุณได้
โดยรถยนต์ที่เหมาะสมกับการผ่อนรายเดือน สำหรับเงินเดือน 15,000 บาท ก็ควรมีราคาไม่เกิน 600,000 บาท จึงจะสามารถผ่านยอดจัดสินเชื่อกับทางไฟแนนซ์ได้ง่ายขึ้น
คุณสามารถเลือกวิธีผ่อนรถได้ 2 แบบ คือ
- ดาวน์เยอะผ่อนสบาย โดยใช้วิธีการวางเงินดาวน์ 30% – 40% ของราคารถ เพื่อให้ค่างวดในแต่ละเดือนถูกลง ดอกเบี้ยไม่สูง และมีระยะเวลาในการผ่อนที่ไม่ยาวนานเกินไป
- ดาวน์น้อยผ่อนนาน ด้วยการเลือกดาวน์ 0% – 25% ของราคารถ แล้วยืดระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้นตั้งแต่ 60 เดือนขึ้นไป ก็จะได้ค่างวดต่อเดือนที่ลดลง แต่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นด้วย
ผ่อนรถฮอนด้ารุ่นไหนได้บ้าง
เงินเดือน 15,000 บาท ก็สามารถออกรถรุ่นใหม่ป้ายแดงกับฮอนด้าได้ โดยรถยนต์ในงบประมาณไม่เกิน 6 แสนบาท พร้อมโปรโมชั่นผ่อนที่คุณสามารถเลือกเองได้ มีดังนี้
Honda Jazz
รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท (เกียร์ธรรมดา)
รุ่น S CVT ราคา 594,000 บาท (เกียร์อัตโนมัติ)
โปรโมชั่นสำหรับ Honda Jazz ออกรถกับ V Group Honda ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท ต่อเดือน
แนะนำ New Honda Jazz 2020 รุ่น S MT และ รุ่น S CVT
Honda Jazz เป็นรถเล็ก 5 ประตูสไตล์ Hatchback ที่มีความเอนกประสงค์ มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวและทันสมัย โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นสไตล์สปอร์ตเรียบ แต่ดุดัน ให้เข้ากับการใช้งานทุกไลฟ์สไตล์
เครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้าให้ อัตราการประหยัดน้ำมัน 15-16 กิโลเมตร/ลิตร โดยในรุ่น S MT จะเป็นเกียร์ธรรมดา และตั้งแต่รุ่น S CVT ขึ้นไปจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ แบบ CVT (Continuously Variable Transmission) ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลต่อเนื่อง และเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่เสียกำลังของเครื่องยนต์ ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ดีไซน์ภายนอกเอกลักษณ์สไตล์สปอร์ตโดดเด่นทุกมุมมอง ตั้งแต่กระจังหน้าจนถึงกันชนท้ายที่มาพร้อมกับชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน ส่วนภายในเป็นสีดำ ใช้ผ้าเป็นวัสดุหุ้มเบาะ และออกแบบพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างสบาย พร้อมเบาะนั่งอัลตร้าซีท ที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มพื้นที่ได้ 4 โหมด
ส่วนระบบความปลอดภัยของทั้ง 2 รุ่น ก็ถูกใส่มาอย่างจัดเต็มเหมือนกับ Honda Jazz รุ่นอื่นๆ ได้แก่ G-Force Control หรือ G-CON ที่ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง, ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS), ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA), ระบบช่วยควบคุมการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) เพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัยตลอดการใช้งาน
Honda City S
รุ่น S ราคา 599,000 บาท
โปรโมชั่นสำหรับ Honda City Turbo S ออกรถกับ V Group Honda ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท ต่อเดือน
แนะนำ Honda City Turbo S
Honda City Turbo รถเก๋งซีดานที่แปลงโฉมจากซิตี้คาร์ให้มีความสปอร์ต หรูหราเร้าใจกว่าที่เคย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ทำให้แรงบิดของเครื่องยนต์ในรุ่นนี้ เทียบเท่ากับเครื่อง 1.8 ลิตร และยังให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับกว่าเดิม
เครื่องยนต์ของ Honda City Turbo รุ่น S ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะขับในเมืองก็สะดวก หรือขับออกไปต่างจังหวัดก็สบาย ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยม
ในส่วนของดีไซน์ภายนอกนั้นได้มีการใส่ความสปอร์ตหรูหราอย่างลงตัว และภายในห้องโดยสารปรับแต่งด้วยสีดำ เบาะหุ้มผ้า พร้อมกับการออกแบบพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างขวางขึ้น ด้วยการปรับตำแหน่งของแดชบอร์ดให้เลื่อนไปข้างหน้า ลดตำแหน่งของบริเวณช่องคันเกียร์ และยังทำด้านหลังของเบาะหน้าให้เว้าเล็กน้อย จึงทำให้ห้องโดยสารมีความโปร่ง นั่งได้สบายในทุกแถวที่นั่ง
Honda City Turbo รุ่น S มีระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มเทียบเท่ากับรุ่นอื่นๆ ใน Honda City Turbo ทั้งโครงสร้างตัวถึงนิรภัยแบบ G-Force Control หรือ G-CON ที่ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง, ระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายเบรก, ระบบควบคุมการทรงตัว ทำให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง
Honda City Hatchback S+
รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
โปรโมชั่นสำหรับ Honda City Hatchback S+ ออกรถกับ V Group Honda ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท ต่อเดือน
แนะนำ Honda City Hatchback รุ่น S+
Honda City Hatchback ตอบโจทย์ความเป็นซิตี้คาร์ กับรถเล็ก 5 ประตูสไตล์ Hatchback ที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้มีการขับขี่ที่ดีขึ้น พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ด้านหลัง และเบาะนั่งแบบอัลตร้าซีท ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการใช้งานได้ถึง 4 แบบ
มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ให้กำลัง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,500 รอบ อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
การออกแบบของ Honda City Hatchback ด้วยแนวคิด Energetic Hatchback ให้มีความสปอร์ตและหรูหรา กระจังหน้าแบบโครเมียม ส่วนท้ายลาดเท ฝาท้ายสไตล์แฮทซ์แบ็ก ไฟท้าย LED รูปทรงสอดรับกับฝากระโปรงท้ายได้อย่างลงตัว พร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว
ส่วนภายในของรุ่น S+ จะใช้วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Piano Black เบาะนั่งหุ้มวัสดุผ้า พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะหลังมีพื้นที่กว้างผู้ใหญ่สามารถนั่งได้ 2-3 คน และยังมีพื้นที่วางขากับพื้นที่เหนือศีรษะที่พอดี ซึ่งสามารถพับเก็บได้ถึง 4 แบบ ตามความต้องการใช้งาน
ส่วนระบบความปลอดภัยของ Honda City Hatchback รุ่น S+ ก็จัดเต็มมาให้เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ทั้งถุงลมคู่หน้า, ถุงลมด้างข้างคู่หน้า, ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายเบรก (EBD), ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA), ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA), ระบบกุณแจนิภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
วิธีวางแผนก่อนผ่อนรถไม่ให้การเงินขัดข้อง
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจผ่อนรถใหม่ป้ายแดง มาดูวิธีเช็กความพร้อมสุขภาพการเงินของคุณให้ดีก่อน เพื่อจะได้วางแผนค่าใช้จ่าย และเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้พร้อม
วางแผนการเงินของคุณให้ดี
เริ่มจากการตรวจเช็กความพร้อมทางการเงินของคุณให้ดี ว่าถ้าต้องผ่อนรถเดือนละอย่างน้อย 5,000 บาท คุณจะมีเงินเพียงพอสำหรับรายจ่ายภายในเดือนนั้นหรือไม่ ซึ่งอาจจะใช้วิธีลองเก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือนติดต่อกันดูก่อน โดยถ้าคุณพบว่าไม่ได้กระทบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็จะไม่มีปัญหากับการผ่อนรถในแต่ละเดือนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ให้พิจารณาจากความก้าวหน้าในการทำงาน เพื่อดูว่าใน 1-2 ปีนี้ คุณมีโอาสที่จะได้รับการปรับฐานเงินเดือนขึ้นอีกหรือไม่ เพราะการมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ก็ช่วยให้ภาระของการผ่อนรถเบาลงได้
วางแผนการผ่อนให้ไม่กระทบการเงิน
ถ้าตอนนี้คุณได้รับเงินเดือน 15,000 บาท แล้วแบ่งออกไปเป็นค่าผ่อนรถเริ่มต้นที่ 5,000 บาททุกเดือน ทำให้ใน 1 ปี จะผ่อนรถได้ประมาณ 60,000 บาทหรือมากกว่า นั่นจะทำให้คุณเห็นแล้วว่าคุณจะต้องเตรียมเงินดาวน์รถเท่าไหร่ดี เพื่อให้สามารถผ่อนรถรายเดือนด้วยเงินที่ตั้งเอาไว้ได้
ตัวอย่างเช่น ต้องการซื้อรถยนต์ในราคา 500,000 บาท โดยต้องการผ่อนรถเดือนละไม่เกิน 6,500 บาท และเลือกวางเงินดาวน์ที่ 30% (150,000 บาท)
รถคันนี้จะมียอดจัดสินเชื่ออยู่ที่ 350,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย 5%* และเลือกผ่อนเป็นระยะเวลา 6 ปี
การคำนวณยอดผ่อนรถ
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะคำนวณโดย 350,000 x 5% = 17,500 บาท/ปี
เลือกระยะเวลา 6 ปี จะต้องจ่ายดอกเบี้ย 17,500 x 6 = 105,000 บาท
รวมยอดสินเชื่อทั้งหมด 350,000 + 105,000 = 455,000 บาท
คำนวณ 6 ปี ต้องจ่ายปีละ 75,834 หรือผ่อนชำระ 6,319 บาท/เดือน
จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าคุณต้องวางเงินดาวน์อย่างน้อย 30% ของราคารถยนต์ และเลือกผ่อนชำระตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถผ่อนรายเดือนในจำนวน 6,319 บาทได้ ซึ่งยังไม่เกินยอดผ่อนที่คุณตั้งเป้าเอาไว้
*ทั้งนี้การกำหนดอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับทางบริษัทไฟแนนซ์เป็นผู้กำหนด โดยจัดเป็นโปรโมชั่นรายเดือนที่คุณสามารถเลือกได้เองตามความพึงพอใจ ซึ่งคุณสามารถสอบถามข้อมูลจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ได้เลย
ดาวน์รถสูงช่วยให้ประหยัดค่าผ่อนได้
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่มีเงินก้อนส่วนหนึ่งแล้ว คือการเลือกดาวน์รถในราคาที่สูงไปเลยตั้งแต่ 30% – 40% ก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ เนื่องจากยอดจัดสินเชื่อจะลดลง ทำให้ยอดผ่อนรายเดือนลดลงตาม และยังช่วยให้คุณลดระยะเวลาในการผ่อนลง รวมถึงดอกเบี้ยรวมทั้งหมดก็จะลดลงด้วย
รถยนต์มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย
นอกจากค่าผ่อนรถรายเดือนแล้ว การใช้งานรถยนต์ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียมเอาไว้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น
- ค่าน้ำมันรถยนต์ โดยค่าใช้จ่ายจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถแต่ละรุ่น ซึ่งถ้าใช้งานเป็นประจำก็จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 2,000-4,000 บาท
- ค่าบำรุงรักษารถยนต์ โดยจะต้องนำไปตรวจเช็กสภาพทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6-12 เดือนกับทางศูนย์บริการ แต่สำหรับรถใหม่ป้ายแดง 3 ปีแรก หรือไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร ก็มักจะมีโปรโมชั่นฟรีค่าแรง จ่ายเพียงค่าอะไหล่เท่านั้น
- ค่าประกันภัยรถยนต์ หรือประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหายจากปัจจัยต่างๆ โดยประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งค่าซ่อมรถ และสินไหมทดแทนให้ ซึ่งก็มีให้เลือกซื้อหลายประเภทในราคาและความคุ้มครองที่แตกต่างกัน
- ค่าต่อทะเบียนรถยนต์ หรือค่าภาษีรถยนต์ โดยจะรถทุกคันจะต้องเสียภาษีเป็นประจำทุกปี ตามขนาด ประเภทของรถ ความจุเครื่องยนต์และอายุการใช้งาน เมื่อชำระแล้วจะได้รับเป็นป้ายภาษีสี่เหลี่ยมมาติดไว้ที่กระจกหน้ารถ ซึ่งหากขาดชำระก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ค่าประกัน พ.ร.บ. รายปี หรือประกันภัยภาคบังคับสำหรับคุ้มครองผู้ประสบภัย ซึ่งค่าใช้จ่ายแบบไม่รวมภาษีอากร ได้แก่ รถเก๋ง 600 บาท / รถกระบะ 900 บาท ซึ่งถ้าไม่ต่อ พ.ร.บ. รายปี ก็จะไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์ประจำปีได้
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มียอดตายตัว แต่ต้องจ่ายเป็นประจำ เช่น ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าล้างรถ ไปจนถึงค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ยางแตก ยางรั่ว บวกลบประมาณ 5,000 บาทต่อปี
สรุปท้ายบทความ
เงินเดือน 15,000 บาทหรือบวกเพิ่มไปนิดหน่อย ก็สามารถผ่อนรถฮอนด้ารุ่นใหม่ได้ โดยถ้าคุณกำลังวางแผนผ่อนรถฮอนด้าในราคารถยนต์ที่ไม่เกิน 600,000 บาท และต้องการปรึกษารายละเอียดเพิ่มเติม หรือรับโปรโมชั่นพิเศษเกี่ยวกับการผ่อนรถ
สามารถเข้ามาพูดคุยกับตัวแทนจำหน่ายได้ที่ V Group Honda ทุกสาขา หรือสอบถามได้กับทุกช่องทางการติดต่อของเรา