เปิดตัวรถยนต์ฮอนด้ารุ่น ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ดีเอชอีวี ใหม่ หรือ Honda City Hatchback e:HEV ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรถยนต์เทคโนโลยีไฮบริดแบบ Full Sport Hybrid i-MMD เข้ากับดีไซน์สไตล์แฮทช์แบ็ก ที่ให้ความทันสมัย โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา รองรับการใช้งานที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยอัจฉริยะด้วย Honda SENSING
มาเจาะลึกรายละเอียด Honda City Hatchback e:HEV รถยนต์ที่ออกแบบให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมราคาผ่อนกับ ฮอนด้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)
ไฮไลด์ของ Honda City Hatchback e:HEV

- ระบบ Full Sport Hybrid i-MMD
- เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังถึง 2 ตัว เกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
- แบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในการจ่ายและชาร์จไฟ
- เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิด 127 นิวตันเมตร ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดถึง 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที ทำให้ได้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง แต่คงไว้ด้วยอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะและเหนือระดับด้วย Honda SENSING
- โครงสร้างนิรภัย G-Force Control ป้องกันห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
ดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยวและอเนกประสงค์

ฮอนด้ารุ่นซิตี้ แฮทช์แบ็ก ดีเอชอีวี ใหม่ เป็นส่วนผสมของเทคโนโลยีสปอร์ตไฮบริด และการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้อย่างอเนกประสงค์ โดยภายนอกออกแบบกันชนหน้า-หลัง รวมถึงกระจังหน้าด้วยดีไซน์สปอร์ต แบบ RS มาพร้อมกับโลโก้ฮอนด้า ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e.HEV ที่สะท้อนถึงเทคโนโลยีไฮบริด

สะกดทุกสายตาด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED พร้อมด้วยไฟตัดหมอกแบบ LED

ภายในโทนสีแบบ Dark Tone เพิ่มความสปอร์ตด้วยวัสดุตกแต่งสีดำ Piano Black และเบาะดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยแถบสีแดง พร้อมทั้งรองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะนั่งอัลตราซีทที่ปรับพื้นที่ได้มาก ถึง 4 รูปแบบ
นอกจากดีไซน์ที่สปอร์ตโฉบเฉียวและความอเนกประสงค์ สิ่งสำคัญคือ เทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบ Full Sport Hybrid i-MMD และเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ Honda SENSING ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้
การทำงานของระบบ Full Sport Hybrid i-MMD
Full Sport Hybrid i-MMD เป็นระบบเครื่องยนต์ไฮบริดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ และมีประสิทธิภาพสูงขั้น โดยสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง พร้อมไปกับการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
โดยระบบ Full Sport Hybrid i-MMD สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ที่ต่อเนื่องและนุ่มนวล ได้ 6 รูปแบบ คือ
- Engine Stop Mode ขณะรถหยุดนิ่งเครื่องยนต์จะหยุดทำงาน แต่ระบบแอร์ยังคงทำงานอยู่ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่
- EV Drive Mode / Hybrid Drive Mode ขณะออกตัวและเพิ่มความเร็ว จะเป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยที่เครื่องยนต์ยังหยุดทำงานอยู่ และเมื่อเพิ่มความเร็วจะเข้าสู่ระบบไฮบริด
- EV Drive Mode สลับกับ Hybrid Drive Mode ขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำหรือปานกลางคงที่ จะเข้าสู่โหมดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบจะเลือกสลับการทำงานกับโหมดการขับแบบไฮบริด ตามระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่
- Hybrid Drive Mode ขณะเร่งความเร็วเพื่อแซง พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จะผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มกำลังในการเร่งแซง
- Engine Drive Mode / EV Drive Mode ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่ จะเข้าสู่โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ และระบบจะตัดสลับการทำงานกับโหมดขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ตามระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่
- Regenerating Mode ในขณะที่ลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้ประสบการณ์ของการขับขี่ที่ทรงพลัง ไปพร้อมกับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด
ความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ Honda SENSING
ผสานการทำงานความปลอดภัยอัจฉริยะด้วยเรดาร์ ที่ทำงานร่วมกับกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาพแวดล้อมบนท้องถนน แล้วแจ้งเตือนไปที่คนขับในสถานการณ์เสี่ยงต่ออันตราย หรือช่วยควบคุมรถเมื่อเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยมีฟังก์ชั่นหลักๆ คือ
1. ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

โดยจะแจ้งเตือนไปยังคนขับให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยาน หรือคนข้ามถนนที่อยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย ไปยังหน้าจอแสดงข้อมูล พร้อมสัญญาณเสียง
รวมไปถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัยในกรณีที่รถสวนทาง ซึ่งเมื่ออยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชนแต่ไม่มีการตอบสนองจากคนขับ ระบบจะทำการเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
2. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)

ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ และจะปรับความเร็วอัตโนมัติด้วยกล้องตรวจจับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม
3. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

โดยกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยให้คนขับสามารถควบคุมรถให้อยู่ในช่องได้เป็นปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ได้
4. ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

ระบบจะใช้กล้องหน้าตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร โดยหากพบว่ารถอยู่ในสภาวะที่เบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอ พร้อมกับการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ
5. ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และปรับเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถสวนทาง หรือมีรถด้านหน้า
รายละเอียดของรถยนต์รุ่น Honda City Hatchback e:HEV
เทคโนโลยีการขับขี่ และความปลอดภัย
- ความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ Honda SENSING (CMBS/LKAS/RDM with LDW / ACC/ AHB)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ปุ่ม ECON พร้อมไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- ถุงลมคู่หน้า ด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบป้องกันล้อล็อก และระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
- กันชนหน้า-หลัง และกระจังหน้า ดีไซน์สปอร์ตแบบ RS
- ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน และไฟท้ายแบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- สปอยเลอร์หลังตกแต่งสีดำแบบสปอร์ต
- H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และ e:HEV Emblem ที่ฝาท้ายของรถยนต์
- กระจกมองข้างแบบ Gloss Black ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ล้ออัลลอยด์ 16 นิ้วดีไซน์สปอร์ตแบบรมดำ
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
- พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
- กระจกมองหลังแบบตัดแสง
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- เบาะดีไซน์สปอร์ต วัสดุหนังกลับ / ผ้า / วัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
- เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้
- เบาะนั่งด้านหลังแบบอัลตราซีทแยกพับแบบ 60:40 ปรับได้ 4 รูปแบบ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- หน้าจอวิทยุสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay
- ลำโพงจำนวน 8 ตัว
- ช่องจ่ายไฟสำรอง ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
- ไล่ฝ้ากระจกหน้า-หลัง
- ช่องปรับอากาศตอนหลัง
- อุปกรณ์อุดการรัวซึมของยางชั่วคราว (TPRK)
ตัวเลือกสีของ Honda City Hatchback e:HEV
Honda City Hatchback e:HEV ได้รับการออกแบบให้ภายนอกมีความสปอร์ต ดูโดดเด่นรอบคัน โดยมีตัวเลือกสีทั้งหมด 6 สี ได้แก่
- สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก)
- สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
- สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีเทาโซนิก (มุก)
- สีดำคริสตัล (มุก)