ภายในปี 2024 ไตรมาสแรกประเทศไทยเตรียมเปิดตัววางจำหน่ายรถยนต์ Honda ไฟฟ้า 100% Honda e:NS1, e:NP1, e:NY1 โดยตัวรถยนต์ไฟฟ้า Honda รุ่นนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว 2 ประเทศได้แก่ประเทศจีน และ ประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นรถ Honda e:NS1 เป็นรถไฟฟ้า 100% อยู่ในกลุ่ม SUV โดยการออกแบบจะใช้พื้นฐานคอนเซ็ปต์ HR-V จึงทำให้มีการออกแบบไฟหน้าที่ดูโดดเด่นในรูปแบบ LED Daytime Running Lights (ไฟส่องตอนกลางวัน) ในส่วนช่องที่ชาร์จไฟจะอยู่ด้านหน้ารถที่ตำแหน่งหลังโลโก้ตัว H
รายละเอียดสเปค Honda e:NS1, e:NP1, e:NY1
เครื่องยนต์ประเภท Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังเครื่องยนต์สูงถึง 204 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 150 km/hr มีเครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้าไฟฟ้าตัวเดียว Single Motor ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD สามารถวิ่งได้ไกลถึง 510 km. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยมีอัตราสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ 13.8 kWh / 100 km. ที่มีความจุแบตเตอรี่สูงถึง 68.8 kWh สามารถชาร์จได้ทั้ง 2 แบบ (กระแสตรง DC และ กระแสสลับ AC) โดยใช้เวลาการชาร์จน้อยสุด 30%-80% ภายในระยะเวลา 40 นาที
ข้อมูลการชาร์จแบตเตอรี่
- ขนาดแบตเตอรี่ 68.8 kWh” (กิโลวัตต์-ชั่วโมง)
- ระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 510 km.
- เวลาการชาร์จ DC ประมาณ 40 นาที
- เวลาการชาร์จ AC ประมาณ 9 ชั่วโมง 30 นาที
- ประสิทธิภาพอัตราสิ้นเปลือง 13.8 kWh/100km
มิติ และ การดีไซน์ภายนอก
- น้ำหนัก 1,679 กก.
- ความยาว 4,390 มม.
- ความกว้าง 1,790 มม.
- ความสูง 1,560 มม.
- ไฟเลี้ยว Sequential
- ไฟหน้า และ ไฟท้ายแบบ LED
- ล้ออัลลอยขนด 18 นิ้ว
- มีปุ่มเปิดที่ชาร์จไฟฟ้า (สามารถชาร์จได้ทั้งแบบ AC และ DC)
การออกแบบภายใน
- หน้าจอ Smart LED ขอบบางขนาด 15.1 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay
- ระบบ Face ID ตรวจสอบพฤติกรรม อารมณ์ขณะขับขี่
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ
- กระจกมองหลังแบบจอภาพ Streaming
- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น
- กุญแจแบบ Keyless Smart Remote
- ระบบความปลอดภัยในการขับขี่ Honda Sensing
- เชื่อมต่อรถเข้ากับ Honda Connect
ราคาของ Honda e:NS1, e:NP1, e:NY1
ในประเทศจีนสำหรับรุ่นเริ่มต้น ราคาจะสตาร์ทเริ่มต้นอยู่ประมาณ 175,000 หยวน (850,000 บาท) และ รุ่น range version ราคาจะอยู่ประมาณ 207,000 หยวน (1,005,000 บาท)
ปล. ราคาดังกล่าวเป็นราคาจากประเทศจีน แต่คาดว่าเมื่อวางจำหน่ายมาถึงในประเทศไทยราคาจะอยู่ประมาณ 1,500,000 บาท หากหักส่วนลดทุกอย่างแล้วลงจะเหลืออยู่ที่ 1,300,000 บาท