ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถใหม่ ต้องวางแผนและใส่ใจในการเลือกทุกขั้นตอน เพราะรถยนต์แต่ละรุ่นมีลักษณะการใช้งานที่ตอบโจทย์แตกต่างกันออกไป และยังมีค่าใช้จ่ายสำรองที่ต้องเตรียมเอาไว้ด้วย
สำหรับใครที่กำลังมีแผนจะซื้อรถใหม่ ในบทความนี้ VGroup Honda พามาดู 10 เทคนิคก่อนจะเลือกซื้อรถใหม่ ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของรถที่ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด
10 เทคนิคเลือกซื้อรถใหม่ ซื้อทั้งทีต้องคุ้ม
1. เลือกประเภทรถจากจุดประสงค์ที่จะใช้งาน
เริ่มจากเช็กดูก่อนเลยว่า คุณจะซื้อรถใหม่มาใช้งานประเภทไหนเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะรถยนต์แต่ละประเภทมีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน ถ้าเลือกใช้งานผิดประเภทก็จะทำให้รถเสื่อมสภาพได้ไว
ประเภทรถยนต์ที่ได้รับความนิยม
- A-Segment Car หรือ Eco Car เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก มีเครื่องยนต์ขนาด 600-1,000 ซีซี มีราคาไม่แพง บำรุงรักษาง่าย ประหยัดน้ำมัน เช่น Honda Brio
- B-Segment Car หรือ Sub Compact เป็นรถยนต์ที่มีให้เลือกทั้ง 3, 4 และ 5 ประตู มีสมรรถนะ การตกแต่ง อะไหล่คล้ายกับประเภทอื่น แต่จะมีขนาดตัวถังและเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า เช่น Honda City
- C-Segment Car หรือ Compact Car เป็นรถยนต์นั่งที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีขนาดพอดีสำหรับเป็นรถครอบครัว ขนของได้เยอะ ไม่ใหญ่เกินไปสำหรับขับในเมืองใหญ่ และใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5-2.0 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสูง เช่น Honda Civic
- Mid-Size Cars เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่เหมาะกับครอบครัว รองรับผู้ใหญ่ได้ 5 ที่นั่ง แบบไม่เบียดเสียด ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0-3.5 ลิตร เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้มากขึ้น และมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป เช่น Honda Accord
- SUV เป็นรถยนต์เอนกประสงค์สมรรถนะสูง มีขนาดใหญ่สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลาย และใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ได้สูงกว่า เช่น Honda CR-V
2. เช็กงบประมาณในการซื้อ
เช็กดูความสมเหตุสมผลของรายได้ และภาระค่าผ่อนรถยนต์ที่จะไม่ทำให้คุณต้องลำบากกับค่าใช้จ่ายมากเกินไป โดยค่าผ่อนรายเดือนไม่ควรเกิน 20-30% ของรายได้ เนื่องจากการซื้อรถใหม่ยังมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและรายปีอื่นๆ อีก
ซึ่งการซื้อรถใหม่มีค่าใช้จ่ายหลังการซื้อรถที่คุณต้องเตรียมสำรองเอาไว้ โดยหลักๆ จะแบ่งเป็น
- ค่า พรบ. หรือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ที่จะมีค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 600-1,200 บาท ซึ่งอาจจะมีพ่วงมากับประกันรถยนต์ หรือถ้าไม่มีก็ต้องซื้อแยก
- ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี หรือค่าต่อทะเบียนรถยนต์ จะได้มาเป็นป้ายวงกลมติดรถ มีค่าใช้จ่ายปีละ 1,500-3,000 บาท โดยยิ่งเครื่องยนต์ใหญ่ก็จะยิ่งเสียภาษีเยอะ
- ค่าประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่จะช่วยคุ้มครองทั้งกับรถยนต์และบุคคลด้วย โดยมีให้เลือกตั้งแต่ประเภท 1-3 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 6,500-20,000 บาท
- ค่าน้ำมันรายเดือน จะขึ้นอยู่กับความถี่ของการใช้รถ และระยะทางในการขับขี่
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยอื่นๆ เช่น ค่าเช็กระยะ ค่าซ่อมบำรุง ที่จำเป็นจะต้องทำเป็นประจำทุก 6 เดือนด้วย
3. เลือกรุ่นรถ และหาข้อมูลให้แน่น
พอรู้งบประมาณในการซื้อรถใหม่กับประเภทรถยนต์ที่ต้องการใช้งานแล้ว ทีนี้ก็มาลิสต์ดูว่ามีรถยี่ห้อไหนบ้าง หรือรุ่นไหนบ้างที่พอจะเปรียบเทียบกันได้ แล้วนำมาหามูลในเกี่ยวกับรุ่นรถยนต์แต่ละรุ่นเพื่อให้ได้รถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด
โดยการอ่านข้อมูลให้ละเอียดที่สุดตั้งแต่ลักษณะของตัวถังรถภายนอก พื้นที่ภายในรถ สมรรถนะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัทรถยนต์ รวมไปถึงการอ่านบล็อกดูว่ามีคนเขียนรีวิวเกี่ยวกับรถรุ่นที่คุณกำลังสนใจอยู่อย่างไรบ้าง
นำข้อมูลทั้งหมดมาวางเปรียบเทียบกัน ว่ามีรถรุ่นไหนที่เข้าตา ตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์การใช้รถของคุณ ให้คัดมาเฉพาะรถคันที่สนใจจริงๆ จากนั้นก็ให้ไปลองนั่ง ลองขับที่โชว์รูมรถ ก่อนที่จะกลับมาตัดสินใจอีกรอบ
4. เลือกตัวแทนจำหน่ายรถที่ให้บริการครบวงจร
การเลือกซื้อรถใหม่กับตัวแทนจำหน่ายรถที่ให้บริการประทับใจแบบจัดเต็ม ครบวงจร จบในที่เดียว จะช่วยให้คุณได้รับความสะดวกสบายในการซื้อรถใหม่และได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด
เทคนิคการเลือกตัวแทนจำหน่ายรถให้คุ้มค่า
- มีรถยนต์ยี่ห้อที่คุณต้องการให้เลือกทุกรุ่น เพื่อให้คุณได้เห็นตัวเลือกที่หลากหลาย และได้ทดลองนั่ง ทดลองขับ และทดลองใช้ฟังก์ชันใหม่ๆ ที่มากับตัวรถ
- มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่ครบจบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านไฟแนนซ์ เจรจาเคาะราคา บริการด้านประกันภัยรถยนต์
- ส่งมอบรถได้รวดเร็ว เมื่อตกลงซื้อแล้ว ทางตัวแทนจำหน่ายสามารถจัดส่งรถได้รวดเร็วตามที่ตกลงกันไว้ ไม่ต้องรอคิวนาน ได้อุปกรณ์ที่สั่งติดตั้งเรียบร้อยตามที่ตกลงไว้ตามมาตรฐาน
- มีบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม หลังจากซื้อรถใหม่ไปแล้ว ทางตัวแทนจำหน่ายยังคงให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งข่าวสารสิทธิพิเศษและกิจกรรมสุดคุ้มให้กับทางลูกค้าอยู่เสมอ
- มีศูนย์บริการตรวจเช็คระยะทาง และซ่อมบำรุงทั่วไปด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ เมื่อรถถึงเวลาเช็กระยะหรือบำรุงรักษาทั่วไป ก็มีทีมช่างที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญในการแก้ไขปัญหาได้ละเอียด ครบถ้วน รวมไปถึงบริการซ่อมสีซ่อมตัวถังได้เครื่องมือที่ทันสมัย ก็ยิ่งสร้างความมั่นใจได้ว่าตัวแทนจำหน่ายที่คุณเลือกให้บริการได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน
โดยทั้งหมดนี้ วี กรุ๊ป ฮอนด้า ก็พร้อมที่จะให้บริการด้านการขายและการบริการอย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรม และได้รับใบรับรองตามมาตรฐานฮอนด้า
5. ทำการทดลองขับดูก่อน
ไปดูรถทั้งที นอกจากการสำรวจตัวถัง ห้องโดยสารแล้วและองค์ประกอบโดยรวมแล้ว ก็ต้องทำการทดลองขับดูก่อน เพื่อเช็คดูว่าสมรรถนะการขับขี่รถรุ่นที่คุณสนใจนั้นตอบความต้องการของคุณหรือไม่
ในการทดลองขับต้องเช็กอะไรบ้าง?
- ปรับเบาะและพวงมาลัยให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดี เช็กความกระชับของเข็มขัดนิรภัย ดูระบบไฟฟ้าภายในรถให้เรียบร้อย
- ความคล่องตัวของรถและความแม่นยำของพวงมาลัย ดูว่าเวลาหักเลี้ยวหรือถอยรถสมรรถนะโดยรวมดีหรือไม่
- ดูพละกำลังของตัวรถ เพราะรถแต่ละรุ่นมีขนาดตัวเครื่องที่แตกต่างกัน เมื่อขับออกถนนแล้วเวลาเร่งรถมีแรงส่งเพียงพอหรือไม่
- เวลาเลี้ยวโค้งรถมีความสั่นสะเทือนมากน้อยแค่ไหน
- ทดสอบระบบห้ามล้อ เวลาเบรครถให้ความแม่นยำในการหยุดมากน้อยแค่ไหน
- ฟังเสียงรบกวนจากภายนอกเวลาขับ ว่ามีการรบกวนสมาธิเวลาขับหรือไม่
โดยก่อนไปทดลองขับให้คุณทำการนัดหมายกับทางตัวแทนจำหน่าย ได้ที่เว็บไซต์หรือติดต่อทางโทรศัพท์ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าถึงวันนัดหมายคุณจะได้รับการบริการที่รวดเร็ว และมั่นใจได้ว่า มีรถให้บริการทดลองขับอย่างแน่นอน
6. สอบถามโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษ
ซื้อรถใหม่ทั้งทีต้องได้รับโปรโมชั่นสุดคุ้มค่ากลับไปด้วย โดยเริ่มจากการหาข้อมูลบนเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายก่อนเลยว่าในเดือนที่คุณจะไปออกรถใหม่นั้น มีการจัดโปรโมชั่นอะไรบ้าง ซึ่งก็จะมีทั้งส่วนลด จำนวนเงินดาวน์ ดอกเบี้ย ที่ออกมาใหม่ทุกเดือนสำหรับรถแต่ละรุ่น
รวมไปถึงของแถมต่างๆ เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1, ฟรีค่าแรงเช็กระยะ, ดูแลค่าอะไหล่ซ่อมบำรุง, ประกันแบตเตอรี่ และอื่นๆ อีกมากมาย
เช็กโปรโมชั่นของเดือนนี้กับ วี กรุ๊ป ฮอนด้า ได้ที่ https://vgrouphonda.com/promotion-car/
โดยนอกจากข้อมูลที่อ่านเว็บไซต์แล้ว คุณก็สามารถเข้าไปที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใกล้บ้าน หรือโทรสอบถามเพื่อรับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมได้อีก จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าโปรโมชั่นที่คุณได้รับในการซื้อรถใหม่มีความคุ้มค่ามากที่สุด
7. อย่าเพิ่งใจร้อน ให้เวลาตัวเองตัดสินใจ
ถ้าหากว่าคุณได้ไปเลือกดูรถจากตัวแทนจากหลายที่มาแล้ว ได้ไปสัมผัสกับรถรุ่นที่คุณอยากได้ ไปทดลองขับ พูดคุยต่อเรื่องราคา การขอสินเชื่อ รับทราบโปรโมชั่นจากทางตัวแทนจำหน่าย ก็อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อรถทันที ให้นำข้อมูลกลับมาเปรียบเทียบกันก่อน
เพราะคุณจะพบว่าตัวแทนจำหน่ายแต่ละที่ จะมีข้อเสนอ มีโปรโมชั่น มีการมอบส่วนลดที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นให้คุณเอาข้อมูลจากทุกที่มากางดู แล้วพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง ว่าซื้อรถใหม่จากที่ไหนที่จะมอบความคุ้มค่า และมอบความสบายใจให้กับคุณมากที่สุด
8. เลือกบริการสินเชื่อที่คุ้มค่า
การซื้อรถด้วยวิธีการเช่าซื้อรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตในการซื้อรถใหม่ทีเดียว ซึ่งคุณสามารถเลือกผ่อนจ่ายรายเดือนได้เองตามความต้องการ
โดยทางฮอนด้า ก็มีบริการเช่าซื้อให้ลูกค้าได้เลือกผ่อนแบบสบายๆ ผ่านบริการของ Honda Leasing ที่จัดโปรโมชั่นรถรุ่นต่างๆ ในแต่เดือน ให้ลูกค้าที่ซื้อรถใหม่กับตัวแทนจำหน่ายของฮอนด้า ได้เลือกผ่อนตามไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด
แบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ
- วางเงินดาวน์เยอะ หรือเลือกวางเงินดาวน์ตั้งแต่ 25% ของราคารถขึ้นไป ก็จะได้ยอดผ่อนต่อเดือนที่น้อยลง พร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่า
- วางเงินดาวน์น้อย หรือเลือกวางเงินดาวน์ตั้งแต่ 15% ของราคารถขึ้นไป จะมียอดวางเงินดาวน์ที่ไม่สูงมาก แต่เพิ่มยอดผ่อนต่อเดือนขึ้นเล็กน้อย
- วางเงินดาวน์ 0 บาท หรือไม่วางเงินดาวน์เลย ก็เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะวางเงินดาวน์เป็นก้อน โดยจะสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนได้ตามความต้องการ แต่ก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
9. อย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์
ถ้าคุณซื้อรถใหม่ ในปีแรกมักจะมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ภายใต้เงื่อนไขติดมากับรถด้วย ซึ่งจะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ รวมไปถึงชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย โดยในปีถัดไปคุณก็สามารถเลือกได้ว่าจะต่อประกันกับที่เดิม หรือเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง
ซึ่งการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้การคุ้มครองรถของคุณได้ครบถ้วนมากที่สุด ได้แก่
- กรณีรถเกิดอุบัติเหตุ มีรอยขีดข่วน กระจกรถแตก ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ โดยสามารถเคลมได้แม้มีคู่กรณี
- รับผิดชอบความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณี
- คุ้มครองผู้โดยสารภายในรถของเรา
- เลือกสถานที่ซ่อมได้ทั้ง ซ่อมที่ศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้น หรือซ่อมที่อู่ทั่วไป
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตอนซื้อรถใหม่หรือว่ารถใช้งานมาแล้ว ก็ควรมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเอาไว้ด้วย จะได้ช่วยให้คุณอุ่นใจตลอดการขับขี่
10. เช็กรายละเอียดใบจองรถให้ครบถ้วน
เมื่อคุณพึงพอใจที่จะซื้อรถใหม่ ทางตัวแทนจำหน่ายจะออกใบจองรถซื้อรถยนต์ ซึ่งจะเป็นเหมือนสัญญาในการดำเนินการสั่งรถยนต์จากบริษัทผู้ผลิต โดยคุณต้องตรวจสอบใบจองรถว่ามีรายละเอียดครบถ้วนหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา
โดยรายละเอียดในใบจองรถจะต้องบอกอย่างละเอียด ดังนี้
- รุ่นรถที่จะซื้อ สี
- ระบุวันที่รับรถชัดเจน
- โปรโมชั่น ข้อตกลง และของแถมที่ได้รับทั้งหมดโดยระบุด้วยว่าเป็นของแท้หรือไม่ เช่น ฟิล์มกรองแสงระบุยี่ห้อ, กรอบป้ายทะเบียน, พ่นกันสนิม, พรมปูรถ หรือของแถมอื่นๆ
- ส่วนลดเงินสด
- วงเงินจอง
- ชื่อและเบอร์โทรติดต่อของตัวแทนจำหน่าย
เพียงเท่านี้ก็จะมีหลักฐานในการรับรถที่เป็นไปตามข้อตกลง และไม่เกิดปัญหาที่จะตามมาในวันที่มาซื้อรถใหม่
สรุปท้ายบทความ
การเลือกซื้อรถใหม่ ต้องเลือกอย่างละเอียดรอบคอบ ให้เวลากับตัวเองและหาข้อมูลให้เยอะเข้าไว้ เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของรถยนต์คันที่ถูกใจที่สุด พร้อมทั้งได้รับบริการหลังการซื้อที่ประทับใจไปอีกยาวนาน
หากคุณกำลังสนใจที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อ Honda สามารถเข้ามาใช้บริการกับ Vgroup honda ทุกสาขาและทุกช่องทางการติดต่อ พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย